สำหรับคนที่ต้องการรีโนเวทบ้าน หรือสร้างบ้านหลังใหม่ เชื่อว่าเรื่องของการตกแต่งบ้านคงจะสร้างความปวดหัวให้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเลือกวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งส่วนต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเลือกปูพื้นบ้าน วันนี้เรามีข้อมูลเปรียบเทียบระหว่าง กระเบื้องยาง และ ลามิเนต ว่าทั้งสองแบบมีข้อแตกต่างอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน
ความแตกต่างระหว่าง กระเบื้องยาง กับ ลามิเนต
ลองมาเปรียบเทียบความแตกต่างของวัสดุทั้งสองประเภทกันดูก่อนว่า มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
1. ค่าใช้จ่าย
โดยพื้นลามิเนตนั้นมีราคารวมทั้งวัสดุ และค่าแรงติดตั้งถูกกว่า โดยอยู่ที่ประมาณอยู่ที่ 100 บาท/ตร.ม. แต่ด้วยราคาที่ต่างกันก็ทำให้ พื้นแบบลามิเนตนั้นมีความหนาที่น้อยกว่า ซึ่งมีความหนาอยู่ที่ประมาณ 8 มม. ในขณะที่กระเบื้องยางไวนิลนั้น มีความหนาอยู่ที่ประมาณ 12 มม.
2. ผิวสัมผัส
วัสดุทั้งสองประเภทนี้ เมื่อเดินแล้วจะให้ความรู้สึกคล้ายกับไม้ธรรมชาติ เพราะถูกปิดผิวด้วยกระดาษพิมพ์ลายที่เลียนแบบไม้จริง แต่ด้วยความหนาที่แตกต่างกัน เวลาเดินก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะลามิเนตเดินแล้วจะมีเสียงดัง กรอบแกรบ ในขณะที่กระเบื้องยางจะรู้สึกแข็ง มีเสียงดังน้อยกว่าลามิเนต
3. ความทนทาน
ในเรื่องของความทนทานหลังจากติดตั้งแล้วต้องยกให้ กระเบื้องยางไวนิล เป็นวัสดุที่มีความทนทานกว่า เพราะมีคุณสมบัติทนทานต่อทั้งความชื้น รอยขีดข่วน และไม่ลามไฟ ทั้งยังไม่มีปัญหาเรื่องของมอดหรือปลวกมากวนใจด้วย ขณะที่ ลามิเนต นั้นแม้ว่าจะติดตั้งอย่างถูกวิธี ใช้ลามิเนตยี่ห้อดัง ผ่านการ ตรวจบ้านก่อนโอน มาแล้วก็ตาม แต่หากไม่ดูแลรักษาให้ดี อาจมีความเสียหายที่เกิดจากความชื้น หรือปลวกได้
สรุปข้อดีและข้อเสียของ ลามิเนต
เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจมากขึ้นลองมาดูข้อดี – ข้อเสียของพื้นแบบลามิเนตกัน
ข้อดีของลามิเนต
- ราคาถูก
- ติดตั้งง่าย ใช้เวลาไม่นาน
- สวยงาม ผิวสัมผัสดี รู้สึกถึงผิวสัมผัสแบบเนื้อไม้จริง
- ทนต่อความร้อน ไม่ลามไฟ และเกิดรอยขีดข่วนยาก
- อายุการใช้งานในบ้านยาวนานได้ถึง 10 ปี
ข้อเสีย
- ไม่กันปลวก
- ไม่ทนต่อความชื้น
- เมื่อเกิดปัญหาการซ่อมแซมต้องใช้ความชำนาญของช่าง หรือต้องเปลี่ยนทั้งแผ่นเลย
สรุปข้อดีและข้อเสียของ กระเบื้องยางไวนิล
ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของการปูพื้นด้วยกระเบื้องยางกันบ้าง
ข้อดีของกระเบื้องยาง
- แข็งแรง ทนทาน
- ทนต่อความชื้น ไม่ลามไฟ เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก
- เช็ดถู ทำความสะอาดได้ง่าย
- ปลวกไม่กิน
- ใช้งานในบ้านได้ยาวนานถึง 15 ปี
ข้อเสีย
- ราคาแพงกว่าลามิเนต
- ติดตั้งยากกว่า
- ไม่เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องขนย้ายสิ่งของเป็นประจำ
- เหมาะกับการใช้งานในบ้านพักอาศัยมากกว่าสำนักงาน
สรุปเลือกวัสดุปูพื้นแบบไหนให้ตอบโจทย์ความต้องการ
สรุปได้ว่าทั้งกระเบื้องยาง และลามิเนต ล้วนมีข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งคู่ แต่หากต้องการเลือกให้เหมาะสมจริง ๆ อาจพิจารณาจากงบประมาณเป็นอันดับแรก เพราะปริมาณพื้นที่เท่ากัน ราคากระเบื้องยางจะสูงกว่าลามิเนตมาก แต่หากพิจารณาจากความทนทานเป็นหลัก ควรพิจารณาปูพื้นด้วย กระเบื้องยาง จะตอบโจทย์ความต้องการได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตามเพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุดของการปูพื้นทั้งสองประเภท ในขั้นตอนของการตรวจรับบ้านนั้น อย่าลืมตรวจสอบพื้นที่ต้องการปูพื้นให้เรียบร้อย เพราะหากมีความลาดชัน พื้นที่ไม่ได้ระดับ อาจมีผลต่อการปูพื้นได้ หรือถ้าจะให้ปลอดภัย และให้ความมั่นใจได้ดีที่สุด แนะนำให้ว่าจ้างวิศวกรตรวจบ้าน หรือบริษัทรับตรวจบ้าน เข้ามาช่วยตรวจสอบอีกครั้ง ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และให้ความสวยงามหลังจากปูพื้นได้อย่างที่ต้องการ
—